มาตรการป้องกัน “โควิด”-19 ในแต่ละประเทศ เชื่อได้เลยว่าแต่ละประเทศก็ต้องมีมาตรการในการรับมืออย่างแน่นอนแล้วตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็เจอวิกฤตด้วยกันทั้งนั้นทั่วโลกกำลังอยู่ในความวุ่นวาย และที่สำคัญเป็นเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ในแต่ละวันนั้นมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน และที่สำคัญเขาบอกเลยนะว่าแต่ละประเทศก็มีมาตรการในการรับมือที่แตกต่างกันด้วยเช่นเดียวกัน และก็มีบางประเทศที่ต้องบอกเลยว่าเขานั้นสามารถรับมือได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว สำหรับมาตรการในการป้องกันโรคโคโรน่าเพราะว่าในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่า เขานั้นดูแลและมีมาตรการเพื่อใช้ในการป้องกันผู้ติดเชื้อ และเขาก็ทำให้เห็นว่าสามารถทำได้และในทุกวันนี้ก็ได้ลดลงอย่างชัดเจนจนแทบจะไม่มีใครที่ติดเชื้อแล้ว อย่างที่เห็นกันได้อย่างชัดๆเลยก็คือประเทศจีนและก็เกาหลีใต้และสิงคโปร์ ดังนั้นเดี๋ยวเรามาดูวิธีการแก้ปัญหาของแต่ละประเทศกันเลยดีกว่า
ในขั้นตอนแรกของการดูแลและวางมาตรการในการป้องกันไวรัสโคโรน่าของประเทศจีน ต้องบอกเลยว่าเขานั้นได้ทำการปิดเมืองอย่างรวดเร็ว แล้วก็ยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดเพื่อที่จะทำให้ทุกๆอย่างนั้น ไม่สามารถที่จะแพร่กระจายไปยังประเทศอื่น หรือแพร่กระจายไปยังทั่วประเทศดังนั้นมันจะเป็นสิ่งที่ถ้าทำให้ไปยังประเทศอื่น และกลับมายังประเทศจีนมันก็อาจจะเป็นการวนกลับมาเป็นการติดเชื้อซ้ำซ้อนก็ได้ ดังนั้นจึงเป็นการยกเลิกทุกๆอย่างและต้องบอกเลยว่ามันเป็นการทำที่ถูกต้อง และเป็นการตัดสินใจที่ดีมากเพราะว่าเป็นการเหมือนตัดไฟแต่ต้นลม เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประเทศจีนนั้นสามารถเอาชนะไวรัสโคโรน่าได้เพียงในระยะเวลาสั้นๆ
ควบคุมด้วยการกักกันโรคแบบเอาจริงเอาจัง เพื่อลดปริมาณในการขยายตัวหรือแพร่เชื้อของไวรัสโคโรน่าเรียกได้เลยว่า เป็นสิ่งที่จริงดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงและขอบอกเลยว่าตั้งแต่เข้าประเทศจีนลงจากเครื่องบิน ก็มีการดูแลรักษาวางมาตรการอย่างเข้มงวดไม่ว่าจะเป็นเปลี่ยนผ้าปิดปาก หรือเปลี่ยนหน้ากากแม้แต่ล้างมือฆ่าเชื้อและวัดไข้รวมถึงตรวจพาสปอร์ตที่สำคัญยังมีการจัดการทุกๆอย่าง เพื่อให้ทุกคนนั้นนั่งห่างกันเพื่อลดระยะห่างดังนั้นขอบอกเลยว่าจีนนั้นลงทุน และใช้ทุนในการต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าอย่างมหาศาลเลยทีเดียวและที่สำคัญยังมีการนำตัวไปกักถึง 14 วัน และไม่เพียงแค่นั้นจีนยังทำการนำสัมภาระทุกอย่างที่คุณได้พกไปเพื่อไปฆ่าเชื้อโรค ก่อนจะส่งไปที่ห้องและบอกไว้เลยว่าเขานั้น มีพนักงานดูแลจัดส่งอาหารมีบริเวณสำหรับแต่ละห้องเพื่อวางอาหารและไปในทันที
ดังนั้นสามารถกล่าวได้เลยว่าประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่สามารถดูแล และดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียวเกี่ยวกับการป้องกันไวรัสโคโรน่า เพื่อไม่ให้มันแพร่กระจายไปมากกว่านี้และเป็นการตัดสินใจที่รวดเร็ว และถูกต้องมากที่สุดเลยก็ว่าได้เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศจีนนั้น ประสบความสำเร็จในการกำจัดไวรัสโคโรน่าอย่างรวดเร็ว และตรงจุดถูกต้องที่สุดไม่ว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่มีความเสี่ยงเขาก็ให้ความสำคัญ และเพื่อที่จะดำเนินการในการปิดกั้นเพื่อกระจายความเสี่ยง เพราะมันเป็นเชื้อโรคไวรัสที่ต้องบอกเลยว่าจำเป็นจะต้องดูแล และเข้าควบคุมอย่างรวดเร็วเพราะโรคนี้มันเป็นโรคที่แพร่กระจายได้ภายในอากาศ จึงจำเป็นจะต้องมีการกักบริเวณและดูแลผู้มีอาการ หรือผู้ที่ติดเชื้อไวรัสยิ่งไวยิ่งมีโอกาสรอดและยิ่งประสบความสำเร็จ
จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเรียกได้ว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านเลยก็ว่าได้ และสิงคโปร์นั้นก็เหมือนเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมในการเดินทางไป ดังนั้นต้องบอกเลยว่าสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางของหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและจับได้ว่าสิงคโปร์นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีพื้นที่เสี่ยงดังนั้นขอบอกเลยว่ารัฐบาลของสิงคโปร์นั้น ได้มีการดูแลรักษาเรียกได้ว่าคุมเข้มแบบจัดเต็มเลยทีเดียว เพื่อที่จะควบคุมการแพร่ระบาดจัดได้ว่ามีที่พักมีอะไรให้ไม่ต่างจากประเทศจีนเลย และที่สำคัญยังมีการดูแลและสุ่มตรวจว่าอยู่บ้านจริง หรือไม่ถึงแม้ว่าสิงคโปร์นั้นจะมีความเข้มงวดที่อาจจะไม่เทียบเท่าของประเทศจีนก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นมาตรการที่ดีและน่าสนใจ
และเมื่อทุกคนนั้นให้ความร่วมมือเกี่ยวกับระบบและมาตรการ จึงทำให้สามารถที่จะควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่าได้เป็นอย่างดี และเชื่อได้เลยว่าทุกๆคนประชาชนก็คงที่จะให้ความร่วมมือ และก็คงจะกลัวกันด้วยจึงพยายามกักตัวเองให้อยู่แต่ในบ้านไม่ไปไหน และที่สำคัญมันแตกต่างจากประเทศไทยที่ประเทศสิงคโปร์นั้นสามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้ ดังนั้นมันมีระบบรองรับและได้เงินตามปกติจึงทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องกันใช้จ่าย และสิงคโปร์ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีมาตรการในการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แล้วก็มีการผลัดเวรคอยทำงานซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มเพื่อที่จะได้เป็นการลดความเสี่ยง และไม่แออัดจึงทำให้สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่สามารถควบคุมได้เป็นอย่างดีอีกหนึ่งประเทศ
เราน่าจะเคยเห็นข่าวมันผ่านครับบ้างที่จัดได้เลยว่าเรียกว่าคุณป้ามหาภัยที่ทำให้เกิดปัญหาโควิดภายในประเทศเกาหลีใต้นั่นก็คือมีคุณป้าที่มีอาการป่วยและเป็นผู้ติดเชื้อแต่เดินทางไปไหนมาไหนและมีการปกปิดประวัติจึงทำให้มีผู้คนนั้นติดกันดังนั้นจึงทำให้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเพราะคุณป้าได้เดินทางไปหลายที่เลยทีเดียวตาเหมือนกับว่ามันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศเกาหลีใต้นั้นได้ตื่นตัวและพร้อมที่จะมารับมือกับไวรัสโคโรน่าและเกาหลีใต้มีการคิดค้นเครื่องมือในการตรวจเช็คและที่สำคัญยังสามารถตามหาผู้ป่วยติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วและตรวจแต่ละคนได้วันละเป็นหมื่นคนจึงทำให้มีประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียวถ้าเทียบกับเกาหลีแล้วเราก็ไทยระบาดมาร่วม 2 เดือนแล้วแต่ตรวจไม่เกิน 5000 รายเสียด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าไวรัสโคโรน่าจะเป็นไวรัสที่น่ากลัว และเป็นไวรัสที่สามารถฆ่าชีวิตผู้คนได้แต่ถ้ามีมาตรการที่ใช้ในการดูแลอย่างเหมาะสม แล้วเราก็หรือรวดเร็วมันจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ผู้คนนั้นสามารถเอาชนะกับไวรัสโคโรน่าได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือความรวดเร็วและมาตรการที่เข้ม มันจะเป็นสิ่งที่ควบคุมทุกๆอย่างได้เป็นอย่างดีรวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ดีด้วย มันจะเป็นตัวช่วยที่ดีเลยทีเดียวในประเทศไทยยังจัดได้เลยว่ารัฐบาลยังปล่อยปละละเลย และยังอยู่ในคุณภาพที่ระดับต่ำจึงยังไม่สามารถที่จะพูดได้ว่าจะเป็นการดูแลอย่างเหมาะสม และเป็นทางออกที่ดีที่สุดคงกล่าวได้ไม่เต็มปาก ดังนั้นรัฐบาลควรที่จะควบคุมอย่างรวดเร็วและเอาจริงเอาจังเพื่อที่จะควบคุมได้อย่างประเทศอื่นๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าจำเป็นจะต้องใช้เงินมหาศาลเลยทีเดียวที่เป็นตัวช่วยในการควบคุม และเชื่อได้เลยว่าไม่ยากเกินความสามารถอย่างแน่นอน